วันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เช็ครอบหนัง อ่านวิจารณ์หนังใหม่เอี่ยมกงการ Mockingjay Part 1

บทวิจารณ์หนัง The Hunger Games: Mockingjay Part 1 




ด้วยกันครั้งหนังในภาคนี้ไม่มีสนามประลองแห่งเกมล่าชีวิตอยู่อีกต่อจากนั้น ภายภายหลังการแข่งขันอันเข้มข้นใน Quarter Quell ครั้งล่าสุด ที่สาวน้อยผู้มากับไฟ แคทนิส เอเวอร์ดีน หรือว่า เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ นั้นได้ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลวงขึ้น พร้อมกับมันได้นำมาซึ่งจุดเริ่มต้นต้นที่แท้แน่แท้ของสงครามที่แท้สุทธิ ที่เธอจักไม่ยอมสยบต่อแคปปิตอลอีกต่อจากนั้น


ซึ่งมีแคทนิสในฐานะสัญลักษณ์ของ ม็อคกิ้งเจย์ จักเป็นผู้นำในการลุกขึ้นต่อต้านครั้งนี้ร่วมกับ

  1. เกล ไม่ก็ เลียม เฮมส์เวิร์ธ ที่เป็นเพื่อนรักจากเขต 12
  2. ฟินนิค เพื่อนร่วมเกมจาก Quarter Quell 
  3. พร้อมทั้ง คนที่สาม คือพลูตาร์ช เกมเมคเกอร์ที่ขอหักหลังแคปิตอล 


เพราะว่าทีทุกอย่าง นั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ก็เพราะว่าจนถึงชายหนุ่มที่เคยต่อสู้เคียงข้างเธออย่างพีต้า เมลลาร์ค เหรอ จอช ฮัทเชอร์สัน ต้องถูกแคปปิตอลจับเป็นตัวประกัน

ด้วยกันสิ่งที่น่าสนใจก็คือภาคนี้เคทนิสเองถูกผลักดันขึ้นมาเป็นตัวแทนผู้นำในการต่อต้านกับแคปปิตอล ซึ่งเอาเข้าแท้แล้วตัวเธอเองก็เพิ่งจะบอบช้ำมาจากการที่ต้องรู้ความแท้ว่าพีต้าถูกสโนว์จับตัวไปเป็นตัวประกัน ทำให้ความสับสนพร้อมกับความซับซ้อนทางอารมณ์ของแคทนิสถูกเปิดเปิดปากออกมาให้ผู้ชมเห็นว่าเธอก็เป็นปุถุชนคนหนึ่งที่ยังคงหวาดกลัวการถูกคุกคามอยู่ดี




กับอันที่แท้จริงแล้วแผนการปฏิวัติจักเกิดขึ้นพร้อมทั้งเป็นผลสำเร็จไม่ได้เลยถ้าถ้าตัวแคทนิสเองไม่ยอมต่อต้าน กฎ ในเกมล่าชีวิตภาคแรก นั่นยังไม่รวมไปถึงการที่เธอเละบือกจะยิงธนูใส่สนามพลังในภาคถัดมา พร้อมทั้งแน่นอนขณะไฟแห่งการปฏิวัติถูกจุดให้ติดขึ้นแล้ว กลุ่มผู้ต่อต้านจึงคิดว่าแคทนิสนี่แหละคือ สัญลักษณ์ ในการปลุกระดมมวลชนให้เห็นคล้อยตามไปกับพวกเขา กับการเลิกจำนนต่อการปกครองแบบเอารัดเอาเปรียบของแคปปิตอล

แต่ว่าอย่างไรก็ตามความสนุกอีกอย่างนอกจากที่บังตาแอ็คชั่นในตัวอย่างหนังใหม่ภาคนี้แล้ว จะเห็นได้ว่าเขต 13 ไม่ใช่หรือ กลุ่มผู้ต่อต้านพร้อมทั้งแคปปิตอล เพราะ ประธานาธิบดีสโนว์ นั้นได้ใช้กระบวนการที่เรียกว่า Propaganda ใช่ไหมโฆษณาชวนเชื่อในการสร้าง เหตุผล เพื่อโน้มน้าวมวลชนของตัวเองให้คล้อยตามไปกับสิ่งที่พวกเขาพยายามจะสื่อสารออกไป

เพราะด้วยที่เขต 13 นั้นพยายามจักใช้แคทนิสเป็นม็อกกิ้งเจย์สัญลักษณ์แห่งอิสรภาพในการปลดเปลื้องพันธนาการจากแคปปิตอล ในขณะที่ทางแคปปิตอลเองก็ใช้เชลยอย่างพีต้าในการพูดให้ทางแคทนิสใจอ่อนพร้อมกับเกิดความไม่มั่นใจเพราะเป็นห่วงในสวัสดิภาพของคนรัก หรือไม่เพื่อนรัก อย่างพีต้า




เพราะว่าที่ตัวละคร อย่างประธานาธิบดี อัลม่า คอยน์ หรือว่า จูลี่แอนน์ มัวร์ นั้นก็จัดได้ว่าเธอเป็นตัวละครที่ต้องแบกรับความรับผิดชอบครั้งยิ่งใหญ่ในการปกป้องผู้คนที่เธอต้องดูแล อย่างที่ทราบกันดีว่าเขต 13 นั้นในความเข้าใจของแคปปิตอลนั้นมันเป็นเขตที่หายสาบสูญไปจากแผนที่เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งการถ่ายทอดบท ผู้นำ ของจูลี่ก็เรียกได้ว่าทรงพลังไม่ปราชัยกับแคทนิสเลยเช่นกัน

พร้อมทั้งที่นอกเหนือไปจากนี้ 1 ในกำแพงที่ดีที่สุดด้วยกันชวนลุ้นระทึกที่สุดในหนังมาใหม่เรื่องก็คงหนีไม่พ้นกำแพงเข้าไปชิงตัวประกันที่เรียกได้ว่า ผู้กำกับการแสดงหนังอย่างฟรานซิส ลอว์เรนซ์สมรรถดูแลจังหวะในการเร้าอารมณ์ผู้ชมให้ลุ้นตามไปกับพวกหน่วยกล้าตายของเกล ในการบุกเข้าไปในตึกของแคปปิตอล ตัดสลับกับการเจรจาถ่วงเวลาระหว่างแคทนิสกับประธานาธิบดีสโนว์




เพราะว่าภาพรวมของโปรแกรมหนังเรียกได้ว่ายังคงดูสนุก แม้ว่าบางส่วนที่เยิ่นเย้อก็ทำเป็นตัดออกไปได้ แต่ก็เข้าใจเจตนาในการหั่นหนังเป็นสองภาคเพราะปัจจัยหนึ่งก็มาจากเรื่องเงินรายได้ น่าเสียดายที่ไคลแมกซ์ของเรื่องแม้ว่าอาจจักไม่ได้ลุ้นจนตัวโก่ง แต่มันก็ประสงค์จักทำให้ผู้ชมหวังจะชม PART 2 ไวๆ เหมือนกัน

@พริตตี้ปลาสลิด

ยกให้ 3.5 คะแนนจาก 5 คะแนน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น